ads by google

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธีทำลิ้นให้สะอาด ช่วยลดกลิ่นปาก

วิธีทำลิ้นให้สะอาด ช่วยลดกลิ่นปาก หากท่านต้องการให้ลมปากสะอาดก็ไม่ควรมองข้ามถึงการทำความสะอาดลิ้น!! เนื่องจากลิ้นของเรามีผิวที่ไม่เรียบแต่ขรุขระ ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับพรมหนาๆที่ถักด้วยเส้นใยผ้า มีซอกเล็กซอกน้อยเต็มไปหมด ดังนั้นลิ้นจึงเป็นที่กักเศษอาหารอย่างดีที่สุด เหมาะที่สุดที่จะให้แบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจนในการเจริญเติบโตอาศัยอยู่ แบคทีเรียเหล่านี้ปล่อยสารพิษที่ทำอันตรายต่อเหงือกและฟัน แล้วยังก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์มีกลิ่นเหม็นเน่า จากการวิจัยพบว่าแบคทีเรียที่มีผลต่อกลิ่นปากมากๆมักจะอยู่ตามโคนลิ้นมากกว่าที่ฟันและเหงือก ก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับหลายท่านที่สงสัยว่า; - ฟันผุก็อุดแล้ว - เหงือกก็ไม่อักเสบ ขูดหินปูนทุก 6 เดือนตามหมอนัด - แปรงฟันหลังอาหารทุกวัน - เสียเงินไปก็มากกับการใช้น้ำยาบ้วนปากหลากหลายชนิด แต่ก็ยังไม่วาย รู้สึกมีกลิ่นปาก ลมหายใจที่ไม่สะอาด...... - ลองมาสังเกตลิ้นของท่านดูว่ามีคราบอาหารจับหรือไม่? - ท่านเคยทำความสะอาดลิ้นหรือเปล่า? การทำความสะอาดลิ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสุขภาพในช่องปากนอกจากการแปรงฟันและใช้ Dental Floss เพื่อทำความสะอาดซี่ฟัน เราจะทำความสะอาดลิ้นอย่างไร? เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์ทำความสะอาดลิ้นทำจากพลาสติกเป็นรูปตัว U วิธีใช้ให้แลบลิ้นออกมาให้สุด ใช้ไม้ขูดลิ้นขูดจากโคนลิ้นมาด้านหน้า ทำสัก 3-4 ครั้งจะเห็นคราบอาหารติดออกมา เราจะทำวันละ 3 ครั้งต่อวัน ตอนเช้าตื่นนอน หลังอาหารเย็น และก่อนนอน การทำความสะอาดลิ้นอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นแล้ว ยังมีผลทำให้ลิ้นสามารถรับรสได้ดีขึ้น (วารสารทันตแพทย์สมาคมสหรัฐอเมริกา ธันวาคม 1999) และก็มีข้อมูลที่น่าสนใจในวงการแพทย์ว่ามีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญว่าแบคทีเรียในช่องปากมีโอกาสทำให้ติดเชื้อและเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ และจากวารสารของสมาคมทันตแพทย์สหรัฐอเมริกาเดือนมีนาคม 2001 ก็ยืนยันว่าก๊าซที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากมีโอกาสเกิดอันตรายต่อเยื่อหุ้มปอดเช่นกัน การขจัดแบคทีเรียในช่องปากนอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพในช่องปาก ทำให้ลดกลิ่นแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพร่างกายส่วนอื่นด้วย ไม่เพียงพอแล้วสำหรับการแปรงฟัน, การใช้ Dental Floss, หรือน้ำยาบ้วนปาก อย่าลืมทำความสะอาดลิ้นด้วยนะครับ โดย พ.ต.ท.ทพ.พจนารถ พุ่มประกอบศรี ที่มา: www.healthtoday.net

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ผู้ชายเอเชีย 1 ใน 10 เคย "ขืนใจ" ผู้หญิง

ผู้ชายเอเชีย 1 ใน 10 เคย "ขืนใจ" ผู้หญิง ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ คอลัมน์: สรรหา มาเล่า ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ผลสำรวจที่ทำการสำรวจเก็บข้อมูลในทุกประเทศของภูมิภาคเอเชีย แต่เป็นผลสำรวจใน 6 ประเทศเอเชีย ได้แก่ บังกลาเทศ จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย ศรีลังกา และปาปัวนิวกินี โดยสุ่มสอบถามผู้ชายกว่า 10,000 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ชาย 1 ใน 10 ที่ยอมรับเคยบังคับขืนใจผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาหรือคนรักของตน จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้หญิงทั่วโลก 1 ใน 3 บอกว่าเคยตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศและกระทำทารุณภายในบ้าน แต่มีผลสำรวจล่าสุดนี้ออกมาซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์แลนเซต โกลบอล เฮลธ์ เรเชล จิ๊กส์ จากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ของแอฟริกาใต้ หัวหน้าทีมศึกษาทั้งสองโปรเจ็กต์นี้ ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ นอร์เวย์ และสวีเดน ถึงกับออกปากว่า "เป็นที่ชัดเจนเลยว่าการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิงได้แผ่ขยายในกลุ่มคนทั่วไปมากกว่าที่เราคิด" ทั้งนี้ เรเชลเล่าถึงวิธีเก็บข้อมูลว่า ทีมงานเธอไม่ได้ใช้คำว่า "Rape" หรือ "ข่มขืน" ในแบบสอบถาม แต่ผู้ชายที่เข้าร่วมในการสำรวจนี้จะถูกตั้งคำถามให้ตอบว่าเขาเคยบังคับฝืนใจผู้หญิงให้มีเพศสัมพันธ์กับเขาโดยเธอไม่เต็มใจหรือไม่ หรือเขาเคยบังคับฝืนใจผู้หญิงที่อยู่ในสภาพเมาเหล้าหรือถูกวางยาเพื่อให้มีเพศสัมพันธ์กับเขาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีหลายพื้นที่ที่ทีมงานศึกษาสรุปว่ามีผู้ชายราว 6-8% ที่ "ข่มขืน" ผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาหรือแฟนของตน แต่เมื่อรวมผู้หญิงที่เป็นภรรยาหรือแฟนเข้าไปด้วย ตัวเลขผู้ชายที่ "ข่มขืน" ผู้หญิงก็ขยับสูงขึ้นอยู่ระหว่าง 30-57% โดยตัวเลขสถิติที่ต่ำสุดคือบังกลาเทศและอินโดนีเซีย ส่วนตัวเลขที่สูงสุดคือปาปัวนิวกินี ขณะที่จากการศึกษาครั้งก่อนพบว่าแอฟริกาใต้มีสถิติการข่มขืนมากที่สุด โดยมีผู้ชายเกือบ 40% ที่เชื่อว่าเคยข่มขืนผู้หญิง ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้ชายที่เคยบังคับขืนใจผู้หญิงให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย มากกว่า 70% บอกว่าทำไปเพราะรู้สึกตนเป็นเพศที่เหนือกว่า ขณะที่เกือบ 60% บอกว่าทำไปเพราะความรู้สึกเบื่อหรือต้องการหาความสนุก และมีอยู่ 40% ที่บอกว่าทำไปเพราะโกรธและต้องการลงโทษผู้หญิงคนนั้น สำหรับความรู้สึกสำนึกละอายต่อความผิด มีผู้ชายครึ่งต่อครึ่งที่รู้สึกผิด และมีเพียง 23% ที่ถูกจับได้และได้รับโทษตามกฎหมาย "ปัญหาที่พบนี้น่าตกใจมาก แต่ทุกที่ที่เราสำรวจเราก็จะพบการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนโดยฝีมือสามีหรือคู่รักของเธอ" มิเชล เดคเกอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิทยาลัยแพทย์จอห์น ฮอฟกินส์ บลูมเบิร์ก กล่าว และว่า "การข่มขืนไม่จำเป็นว่ามีใครเอาปืนมาจ่อหัวผู้หญิง และผู้คนมักจะคิดกันว่าการข่มขืนมักเกิดจากน้ำมือของคนอื่น ไม่ใช่คนในครอบครัว"

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Fwd: [LookMiM:98299] YouTube...ยาหมอบอก : 10 อันดับ การใช้ยาผิด - 6 ต.ค. 56


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training


 







ยาหมอบอก : 10 อันดับ การใช้ยาผิด - 6 ต.ค. 56
ยาหมอบอก จัดอันดับ 10 การใช้ยาแบบผิดๆ ที่คนไทยมักทำกัน บางเรื่องส่งผลแค่กินยาเข้าไป ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไปจนถึงการเสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต มาพร้อมการทดลองที่เข้าใจง่ายและคำแนะนำดีๆ หากใช้ยาผิดไปแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อ กับ ภก.ธีรัตถ์ เหลืองมั่นคง ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ว่าการลืมกินยา การใช้/กินยาที่เหลือ โดยไม่ไปหาหมอ อันตรายจากการหยุดกินยาบางชนิดทันที เมื่อหายป่วย การกินยานอนหลับ ยาฉลาด มีจริงไหม ลืมกินยาคุม เริ่มกินใหม่อย่างไร ใครจะรู้ว่าแค่ไม่อ่านฉลากยา ซื้อยากินเอง มีโอกาสเสียชีวิตเลยทีเดียว

รายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ที่จะเปลี่ยน"ความเข้าใจผิด" เกี่ยวกับยา ผลิตภัณฑ์ยา วิตามิน อาหารเสริม และเวชสำอางค์ ให้เป็นความรู้ ประกอบการสาธิตและการทดลองที่เข้าใจง่าย ในรายการ ยาหมอบอก ออกอากาศใน วันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส Thai PBS และทาง Mahidol Channel ทาง CTH ช่อง 107
Facebook : http://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : http://www.mahidolchannel.com
©2013 YouTube, LLC 901 Cherry Ave, San Bruno, CA 94066



 
๐ สมัครเป็นสมาชิก ส่งเมล์เปล่ามาที่ lookmim-subscribe@googlegroups.com
๐ ลาออก หรือปรับรูปแบบการรับเมล์ ไปที่ http://groups.google.com/group/lookmim/subscribe
๐ เยี่ยมชม / ดูหัวข้อเก่า ได้ที่ http://groups.google.com/group/lookmim
๐ ตรวจสอบสถานภาพ เมื่อไม่ได้รับเมล์ตามปกติ http://groups.google.com/groups/bounced
 
---
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณสมัครรับข้อมูลจากกลุ่ม "LookMiM" ของ Google Groups
หากต้องการยกเลิกการสมัครรับข้อมูลและหยุดรับอีเมลจากกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ lookmim+unsubscribe@googlegroups.com
หากต้องการดูตัวเลือกเพิ่มเติม กรุณาดูที่ https://groups.google.com/groups/opt_out

Fwd: [LookMiM:98300] 'สังฆราช' สมณะผู้ทรงธรรม


 

'สังฆราช' สมณะผู้ทรงธรรม

โดย : ผกามาศ ใจฉลาด

"สมเด็จท่านสิ้นพระชนม์แล้ว" เสียงสั่นเครือของพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัย 53 ปี

หลังสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2556 เวลา 19.30 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บรรดาลูกศิษย์ ผู้รับใช้ใกล้ชิด พุทธศาสนิกชนที่ไปนั่งสวดมนต์และนั่งเจริญจิตตภาวนาอยู่นอกห้องที่ประทับ ต่างเศร้าสลดใจ แม้ปากจะนั่งสวดมนต์อธิษฐานจิตส่งเสด็จพระองค์ท่าน แต่เสียงสวดมนต์ปนไปด้วยเสียงสะอื้นและใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้ม

ณ เวลานี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อสมเด็จพระสังฆราชว่า การเคารพนับถือพระองค์ท่านไม่ได้อยู่แค่ในฐานะพระอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่พระองค์ท่านเป็นเสมือนพ่อที่ดูแลสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก

"สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ ประเทศเนปาลเมื่อปี 2513 ทรงรับปากคณะสงฆ์เนปาลไว้ว่า จะช่วยฝึกพระเณรประเทศเนปาล เพื่อได้รับการศึกษาที่ถูกต้องและกลับไปเผยแผ่ ก่อนหน้านั้นบวชเณรที่ศรีลังกา 9 เดือน จากนั้นอาตมาได้เข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราชครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2518 อาตมาไม่ทราบว่าหน้าตาสมเด็จพระสังฆราชเป็นอย่างไร มาจากสนามบินพระอาจารย์จากเนปาลก็นำเข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราช"

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ เล่าว่าจำได้ว่าเมื่อได้เข้าเฝ้าครั้งแรกพอกราบเสร็จ พระองค์ก็ให้ไปหาพระเลขาที่กุฏิข้างๆ ความทรงจำตอนนั้นเห็นพระพักตร์ครั้งแรก จำได้แค่ว่า ทรงยิ้ม พระพักตร์เปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็จำไม่ได้ แต่ทรงทราบดีว่าอาตมาเป็นสามเณรเนปาลเชื้อสายศากยวงศ์

"อาตมานับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ในพระเมตตาอุปถัมภ์ดูแลเหมือนกับลูกคนหนึ่งของพระองค์ การมีเชื้อศากยวงศ์ของอาตมา พระองค์มีความโปรดปรานเป็นพิเศษตรงที่ว่า เป็นเชื้อสายศากยวงศ์ของพระพุทธเจ้า เวลาเสด็จเนปาลพระองค์มักจะถามเรื่องนี้ หรือเวลาอยู่ในไทยทรงจะชี้ให้ทุกคนเห็นว่า นี่เขาเป็นเชื้อสายศากยวงศ์นะ แสดงให้เห็นว่าทรงมีความภาคภูมิใจในความเป็นศากยะระดับหนึ่ง แต่อาตมาเองไม่มีอะไรเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสสนองงานถวาย รู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย มีโอกาสสนองงานถวายเทียบกับสามเณรและพระวัดบวรมีกว่า 20 รูปขณะนั้น"

เรียนจบปริญญาเอกด้านมานุษยวิทยามา เป็นการผลักดันของสมเด็จพระสังฆราชเอง ไม่ใช่เป็นความใฝ่ฝันของอาตมาเลย ทรงให้ไปศึกษา เมื่ออาตมากลับมาก็ทรงภูมิพระทัยบอกว่านี่เขาเป็น"ดอกเตอร์"แล้วนะ ทรงชี้ว่าหน้าที่ของคุณตอนนี้ก็คือ สอนสิ่งที่คุณเรียนมา ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากที่อยู่ในการบริหารและงานเอกสาร ต้องเจอผู้คน เมื่อสมเด็จพระสังฆราชขีดเส้นให้อย่างนั้น ในฐานะลูกศิษย์ก็น้อมรับ พยายามทำตัวให้ดีที่สุด เริ่มทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนในสิ่งที่เรียนมา

การอบรมสั่งสอนของสมเด็จพระสังฆราช เป็นไปอย่างมีแบบแผน พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ บอกว่า สมัยเป็นสามเณรชอบนึกเสมอว่าทำไมต้องเป็นเรา อยากจะเล่น อยากจะหนี แต่ถูกบังคับให้มาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช แต่ตอนนี้หากมองย้อนกลับไปอาตมารู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย

"สิ่งที่สมเด็จพระสังฆราชทรง สอนนั้น คงยากจะย่อความออกมา ในสิ่งที่ทรงทุ่มเทให้อาตมา แต่สิ่งที่เห็นคือ การวิจัย การวิจารณ์ การพัฒนาโยนิโสมนสิการเรื่องข้อธรรมะต่างๆ สมเด็จพระสังฆราช จะมีจุดเด่นที่ว่าพระองค์ทรงโปรดที่จะวิเคราะห์ข้อธรรม ไม่ใช่ว่ารับเข้ามาเฉยๆ พระองค์จะทรงนั่งสอนว่าดูสิพระไตรปิฎกนี้อ่านเมื่อไหร่ก็ได้ความรู้ใหม่ๆแม้ ว่าอ่านมา 30-40 ปีก็ตาม ซึ่งแต่ละประเด็นที่ทรงยกตัวอย่างแสดงให้เห็นว่ามีวิธีคิดใหม่ๆ หรือว่าวิธีที่ทรงสอนเอง บางครั้งทรงสอนแบบไม่มีข้อกังขา ทำให้จุดหนึ่งเรากล้าที่จะศึกษา กล้าที่จะค้นคว้า"

"ความอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่าย"คือสิ่งที่พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นต้นแบบ "จากพระจริยวัตรของพระองค์ ทรงอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยถือพระองค์ว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราช หากมีพระผู้ใหญ่เข้ามาแม้มีพรรษามากกว่าแค่ 1 วัน พระองค์จะลดพระองค์ลงมาจากอาสนะมากราบ เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนที่เห็นมาตลอด"

ทรงเรียบง่าย มีความเป็นสมณะไม่อยู่อย่างหรูหรา เวลาเสด็จไปไหนไม่ได้รับจตุปัจจัยใดๆที่ญาติโยมถวายเลย ทรงถวายคืนเพื่อให้เขาไปทำบุญต่อ ทรงรับสั่งว่า เขานิมนต์พระสังฆราชและนิมนต์ด้วยความยากลำบาก ท่านบอกว่าไปไม่ใช่เพื่อรับของ แต่ไปเพื่อช่วยงานเขา เพื่อให้งานเขาสำเร็จและทรงทำเช่นนี้มาตลอด ก็เป็นภาพที่ประทับใจมาโดยตลอดว่านี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า "สมณะ"

Tags : สมเด็จพระสังฆราช


 

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ต้นไม้บ้านใครอ่ะครับ

กรากาตัวคืออะไร




กรากาตัว
คอลัมน์: รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น


"กรากาตัว" (Krakatoa หรือ Krakatau) เป็นชื่อภูเขาไฟที่อยู่บนหมู่เกาะชื่อเดียวกันในช่องแคบซุนดาระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตรา หมู่เกาะกลุ่มเล็กๆนั้นประกอบด้วย 3 เกาะ คือ เกาะลัง (Lang) เกาะเวอร์ลาเต็น (Verladen) และเกาะรากาตา (Rakata) ซึ่งรากาตานี้เองที่บ่อยครั้งที่ใช้คำว่ากรากาตัวแทนไปโดยปริยาย

บนเกาะรากาตาหรือกรากาตัวมีภูเขาไฟ 3 ลูก ได้แก่ เพอร์โบวาตาน (Perbuatan - 122 เมตร) อยู่ด้านเหนือสุด ถัดมาเป็นภูเขาไฟฝาแฝด คือมี 2 ปล่อง ชื่อ ดานาน (Danan - 445 เมตร) ส่วนภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะอยู่ทางใต้สุดชื่อเดียวกับชื่อเกาะ คือรากาตา (823 เมตร)

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ พื้นผิวเปลือกโลกบริเวณที่รองรับประเทศอินโดนีเซียที่เรียกว่าอินโดนีเซียนเพลต หรือเอเชี่ยนเพลต ถูกเปลือกโลกอีกแผ่นคือออสเตรเลียนเพลตเคลื่อนที่เข้ากระแทกแล้วมุดเข้าไปใต้เปลือกโลกเอเชี่ยนเพลต เมื่อมีที่ตั้งอยู่บนจุดที่เป็นทั้งรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนที่ในอัตราที่สูง และเป็นส่วนของแผ่นเปลือกโลกที่มีความบางมาก เมื่อแรงกดและความตึงเครียดสะสมได้ระดับที่พร้อมจะปลดปล่อยออกมาจึงทำให้เป็นจุดเปราะบางที่จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้บ่อยครั้ง

กรากาตัวมีแนวเส้นภูเขาไฟพาดผ่านใจกลางเกาะ หินและธาตุภูเขาไฟทำให้เป็นเกาะอุดมสมบูรณ์ มีผู้คนมาตั้งรกรากเริ่มจากทำเกษตรกรรม และต่อมาบริเวณนี้เป็นช่องแคบสำคัญ มีเรือสัญจรตลอดเวลา หมู่เกาะเล็กๆจึงกลายเป็นชุมชนใหญ่ที่มีถึงกว่า 160 หมู่บ้าน ภูเขาไฟกรากาตัวมีการระเบิดหลายครั้ง พ่นแร่ธาตุออกมาทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยการระเบิดครั้งสุดท้ายก่อนการระเบิดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2224 หลังจากนั้นกรากาตัวก็สงบนาน 202 ปี จนถึง พ.ศ. 2426 เปิดหนังสือ ภู-มี-ศาสตร์ โดยบินหลา สันกาลาคีรี เขียนไว้ว่า เหตุการณ์ระเบิดครั้งรุนแรงของกรากาตัว "อาร์ดีเด็ม เวอร์บีค" เจ้าหน้าที่สำรวจของบริษัทเนเธอร์แลนด์ตะวันออกผู้อยู่ในเหตุการณ์ บันทึกแทบจะนาทีต่อนาทีดังนี้

วันที่ 20 พฤษภาคม (2426) ภูเขาไฟเพอร์โบวาตานส่งเสียงเตือนเบาๆ ปากปล่องพ่นเถ้าถ่านออกมาสูง 6 กิโลเมตร ต่อมา 19 มิถุนายน ภูเขาไฟดานานตรงกลางเกาะเริ่มประสานงานด้วย และ 11 สิงหาคม ไม่เพียงแค่พอร์โบวาตาน, ดานาน และรากาตาเท่านั้นที่กรุ่นควันพ่นเถ้าถ่าน รอยแยกเล็กรอยแยกน้อยเคียงข้างปล่องภูเขาไฟก็ร่วมปลดปล่อยไอพิโรธจากใต้ผืนดิน นับรวมทั้งสิ้นได้ 11 ปล่อง 24 สิงหาคม บ่ายโมง เปลวไฟปะทุ 26 สิงหาคม ปฐพีสะเทือน เวลาบ่าย 2 โมงฟ้ามืดเหมือนยามกลางคืน เถ้าและควันคลุมสูงขึ้นไป 27 กิโลเมตร เสียงระเบิดถี่และกึกก้องแทบจะทุก 10 นาที เรือในทะเลที่ห่างฝั่งร่วม 20 กิโลเมตรรายงานตรงกันว่าพายุหินร้อนๆสาดใส่ดุจสายฝน และคลื่นสึนามีเกิดห่างออกไป 40 กิโลเมตร

วันอาทิตย์ 27 สิงหาคม 2426 การระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่สว่าง 05.30 น. แล้วอีกครั้ง 06.42 น. อีกครั้ง 08.20 น. กระทั่ง 10.01 น. กรากาตัวพินาศโดยสมบูรณ์ เสียงระเบิดดังได้ยินถึงย่านเกาะมอริเชียสซึ่งไกลออกไปถึง 4,800 กิโลเมตร เป็นการระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่มีมาในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ ปริมาณลาวาทะลักล้นมหาศาล ผนวกกับคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 100 ฟุต กวาดกลืน 160 หมู่บ้านหายในพริบตา ผู้คน (ตัวเลขอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา) 36,417 คนเซ่นสังเวย และเวอร์บีคบันทึกด้วยว่าบนเกาะกรากาตัวไม่มีภูเขาไฟเพอร์โบวาตานอีกต่อไป ดานานก็ไม่มี รวมทั้งผืนแผ่นดินเกาะอีกราว 2 ใน 3 จมหายสาบสูญไปในทะเล

ต้น พ.ศ. 2470 มีการค้นพบภูเขาเล็กๆก่อตัวขึ้นกลางทะเลบริเวณที่เพอร์โบวาตานกับดานานจมหายไป ภูเขานั้นเติบโต
อย่างวดเร็ว เมื่อถึงกลางเดือนมิถุนายนปีเดียวกันยอดของมันก็โผล่ขึ้นเหนือน้ำ เป็นเกาะหินชัดเจน ชาวอินโดนีเซียเรียกชื่อ "อนัค กรากาตัว" (Anak Krakatoa) อนัค แปลว่าเด็กเล็กๆ มันคือหนูน้อยกรากาตัวนั่นเอง เป็นหนูน้อยที่ความสูงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นอนัค กรากาตัวลำดับที่ 2, 3 และ 4 ก็ทยอยพ้นผิวมหาสมุทรขึ้นมาตามลำดับ และหนูน้อยทั้งหมดเป็นภูเขาไฟ 

ข้าวฮาง ก็คือข้าวน้ำนมที่แก่เกินกว่าจะทำข้าวเม่าหจริงหรือ




ข้าวฮาง
คอลัมน์: รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น


ได้ความรู้เรื่อง "ข้าวฮาง" จากสำนักงานกรมส่งเสริมการเกษตร ว่า ข้าวฮางเป็นข้าวน้ำนมที่มีระยะแก่เกินจะทำข้าวเม่า แต่ยังไม่สุกพอระยะเก็บเกี่ยวหรือระยะพลับพลึง (รวงแก่ประมาณ 80%) จากนั้นนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำและนำไปนึ่ง ก่อนจะสีเป็นข้าวกล้อง ข้าวฮางทำได้ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว

การสีข้าวฮางเป็นการนำเอาเปลือกหรือเอาแกลบออกโดยที่จมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดไม่แตกหักไปไหน เส้นใยและโปรตีนที่มีคุณค่าจึงอยู่ในเมล็ดครบ และเนื่องจากการนึ่งข้าวให้สุก เมล็ดข้าวจะเหนียวไม่มีเมล็ดแตกร้าว เมื่อนำไปสีจึงทำให้ข้าวฮางมีสีเหลือง ทั้งนี้ ข้าวฮางแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ 1. ข้าวฮางระยะน้ำนม 2. ข้าวฮางที่นำข้าวเปลือกไปแช่น้ำ 24 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่ง และ 3. ข้าวฮางที่นำข้าวเปลือกไปแช่น้ำ 24 ชั่วโมง นำมาบ่ม 48 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่ง หรือเรียกข้าวฮางงอก

การนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำก่อนนำไปนึ่งก็เพื่อกระตุ้นให้เกิดการงอก ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในเมล็ดข้าว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของปริมาณสารกาบา - GABA (Gamma Amino Butyric Acid) ในเมล็ดมากเป็น 10 เท่าของข้าวสาร และเกิดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แกมมาออริซานอล วิตามินอี สารฟีโนลิก ไลซีน และสารกาบา ซึ่งในข้าวกล้องงอกมีสารกาบาเป็นสารอะมิโนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการการงอกของเมล็ด สารกาบาที่อยู่ในเมล็ดข้าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อข้าวงอก และจะเพิ่มถึง 15 เท่าเมื่อข้าวงอกมีอายุ 1-2 วัน หลังจากนั้นสารกาบาก็จะลดลงเรื่อยๆ

ประโยชน์;
     1. สารกาบาจะทำหน้าที่เป็นสื่อประสาทส่วนกลาง และเป็นสารสื่อประสาทประเภทยับยั้ง ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมอง ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อซึ่งทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยการเจริญเติบโต และป้องกันไขมันชื่อลิโพโทรปิก (Lipotropic)
     2. สารกาบาช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสม่ำเสมอ ชะลอความแก่ชรา ควบคุมระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด รวมทั้งขับเอ็นไซม์เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นการขับน้ำดีเสื่อม ในวงการแพทย์มีการใช้สารกาบารักษาโรคเกี่ยวกับประสาท เช่น โรควิตกกังวล โรคนอนไม่หลับและโรคลมชัก
     นอกจากสารกาบาข้าวฮางยังมีสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด ได้แก่ 3. โปรตีน
     4. ธาตุแมงกานีส ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
     5. วิตามิน ช่วยเผาผลาญพลังงานได้หมด ทำให้ไม่อ้วน
     6. แร่ธาตุไนอะซีน ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น (ทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว)
     7. ระบบประสาทไว
     8. เส้นใยสูงกว่าข้าวขาวอย่างน้อย 3-8 เท่า มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
     9. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ตับอ่อนจะมีการผลิตอินซูลีนในระดับที่สมดุลระหว่างการกินกับการใช้น้ำตาลของร่างกาย การกินข้าวฮางจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
     10. ในข้าวฮางยังมีวิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ซีเลเนียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ธาตุเหล็กสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโลหิตจาง ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้มีมากกว่าข้าวขาว

ข้าวทุกพันธุ์นำมาทำข้าวฮางได้ แต่คนอีสานนิยมนำข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข 6 มาทำข้าวฮาง เนื่องจากปลูกอยู่ประจำ ทั้งข้าวหอมมะลิมีกลิ่นหอม เหนียวนุ่มน่ารับประทาน ยิ่งถ้าใส่สมุนไพรลงไปก็ยิ่งเพิ่มคุณค่าของข้าวฮาง ทั้งนี้ ข้าวฮางที่ดีมีข้อสังเกต
     - จมูกข้าวอยู่เต็มเมล็ด ไม่มีรอยแหว่งตรงปลายเมล็ดซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่มีประโยชน์
     - สีของเมล็ดข้าวเป็นสีน้ำตาลทอง อาจมีสีเข้มหรือจางกว่านี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว แสดงว่าเส้นใยอาหารยังไม่ถูกขัดสีออก
     - ไม่มีข้าวพันธุ์อื่นหรือสิ่งเจือปน สะอาด
     - เป็นข้าวที่อบหรือตากจนแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นอับชื้น ขึ้นรา หรือมีมอด 
     - บรรจุในภาชนะหรือถุงที่สะอาดปิดสนิท ระบุสถานที่ผลิตและราคาขาย
     - การซื้อมาบริโภคควรซื้อมาในปริมาณที่บริโภคหมดภายใน 2-3 สัปดาห์ และเมื่อเปิดภาชนะหรือถุงใช้แล้วควรปิดฝาให้สนิท เก็บในที่แห้งสนิทและสะอาด  

เห็นใจหน่อยพวกว่างงาน

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

โรงแรมลอยน้ำ มหัศจรรย์ทิวทัศน์อะเมซอน

โรงแรมลอยน้ำ มหัศจรรย์ทิวทัศน์อะเมซอน


ภายในบรรยากาศอบอุ่น เน้นสีเอิร์ธโทน
ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนพร้อมสัมผัสทิวทัศน์น่านน้ำอะเมซอนได้อย่างเต็มตาผ่านผนังกระจกใสในห้องส่วนตัว
หรือจะเลือกชิลล์รับลมบริเวณระเบียงชั้นบนสุดของโรงแรมลอยน้ำ

จุดขายที่สำคัญของโรงแรมลอยน้ำน่าจะอยู่ที่การล่องแม่น้ำอะเมซอน
เพราะถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในการได้เห็นอนาคอนด้างูที่ใหญ่ที่สุดในโลก!
หรือถ้าโชคดีก็อาจได้เจอโลมาสีชมพูดำผุดดำว่าย
เสือจากัวร์ดำผจญภัยในป่ากว้าง ทิวทัศน์ซึ่งยากจะหาชมได้ที่ไหน

เมื่อละสายตาจากวิถีแห่งอะเมซอน
โรงแรมลอยน้ำก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้เพลิดเพลิน เช่น นอนแช่อ่างจากุซซี่
เสียเหงื่อเล่นกีฬาในยิม
ชิมอาหารฝีมือตัวเองด้วยอุปกรณ์ครัวที่จัดสรรไว้ให้แก้เบื่อ
ด้วยโปรแกรมล่องแม่น้ำ 3 คืน 4 คืน หรือ 7 คืน บนเส้นทางสำรวจเขตอนุรักษ์
Pacaya Samiria ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในน่านน้ำอะเมซอน
แน่นอนว่าทริปแห่งประสบการณ์หาดูยากบนโรงแรมลอยน้ำสุดหรูราคาย่อมไม่ละมุนหูสำหรับบางคนเป็นแน่
ได้ยินแล้วอาจยอมแพ้ นอนแพล่องแม่น้ำกาญจนบุรีอาจจะเข้าทีกว่า
เพราะค่าใช้จ่ายต่อสองคนสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 170,000 บาท ต่อ 3 คืน

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์





จอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์
รู้ไปโม้ด
โดย น้าชาติ ประชาชื่น


น้าชาติ อยากทราบที่มาของพระนามเจ้าชายองค์ใหม่ของอังกฤษ ทำไมยาวจัง?
แพรว

ตอบ แพรว - รัชทายาทลำดับที่ 3 ราชบัลลังก์อังกฤษ เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ - Prince George of Cambridge พระโอรสในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และแคตเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ มีพระนามว่า "เจ้าชายจอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์ - George Alexander Louis"

ที่มาของพระนาม เริ่มจาก "จอร์จ" เป็นพระนามของพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระบิดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ.1936-1952 ต่อจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระเชษฐา ที่ทรงสละราชสมบัติเพื่อแต่งงานกับสามัญชนหญิงชาวอเมริกัน

พระนามจอร์จมีที่มาจาก พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งบริเตนใหญ่ พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์ฮาโนเวอร์ ครองราชย์ปี 1714-1727 ทรงเป็นกษัตริย์ที่ใช้พระนามจอร์จเป็นพระองค์แรก

นอกจากนั้น จอร์จยังเป็นชื่อของนักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองของอังกฤษ นักบุญจอร์จเป็นเซนต์ที่นับถือกันมากในนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และออเรียนทัลออร์โธดอกซ์ เจ้าของตำนานการต่อสู้กับมังกร นักบุญจอร์จเป็นหนึ่งในนักบุญผู้ช่วยศักดิ์สิทธิ์ 14 องค์

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ แต่ที่มาของคำว่าจอร์จแผลงมาจากภาษากรีก Georgios ที่แปลได้ว่า เกษตรกร

ทั้งจอร์จยังเป็นชื่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ อาทิ จอร์จ เฟรเดอริก ฮันเดิล นักประพันธ์เพลงชาวอังกฤษเชื้อสายเยอรมัน (1685-1759), จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ (1732-1799) และจอร์จ แวนคูเวอร์ นักสำรวจชาวอังกฤษ ผู้ค้นพบชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก (1757-1798)

"อเล็กซานเดอร์" เป็นคำภาษาละติน ที่แผลงมาจากภาษากรีก Alexandros แปลว่า ผู้พิทักษ์ประชาชน เป็นพระนามของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย (356-323 ปีก่อน ค.ศ.) ผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ มีพระชนม์เพียง 32 ปี

อเล็กซานเดอร์ยังเป็นพระนามของสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ กษัตริย์องค์ปัจจุบันแห่งเนเธอร์แลนด์ ผู้สืบทอดบัลลังก์จากสมเด็จพระราชินีเบียทริกซ์

บุคคลที่มีชื่อดังกล่าวในประวัติศาสตร์ประกอบด้วย อเล็กซานเดอร์ โป๊ป กวีเอกชาวอังกฤษ (1688-1744), อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน รัฐบุรุษชาวอเมริกัน (1755-1804), อเล็กซานเดอร์ พุชคิน กวีเอกชาวรัสเซีย (1799-1837) และอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล นักประดิษฐ์ชาวสก็อต ผู้คิดค้นโทรศัพท์ (1847-1922)

"หลุยส์" มาจากภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ที่มีรากศัพท์จากภาษาเยอรมันว่า Ludwig ลุดวิก แปลว่า นักรบผู้เกรียงไกร อังกฤษยังไม่เคยมีกษัตริย์ที่ใช้พระนามว่าหลุยส์

หลุยส์เป็นชื่อต้นของลอร์ดเมาต์แบตเทน ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปิตุลาหรือลุงของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ท่านลอร์ดถูกกลุ่มไออาร์เอสังหารเมื่อปี 1979

ขณะที่ทางฝรั่งเศสมีกษัตริย์ใช้พระนามหลุยส์มากถึง 18 พระองค์ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เสวยราชสมบัติเมื่อปี 1643 ทรงครองราชย์นานถึง 72 ปี พระองค์ยังมีพระนามว่าเลอ รัว โซเลย (le Roi Soleil) หรือสุริยกษัตริย์

บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ใช้ชื่อหลุยส์ อาทิ หลุยส์ ปาสเตอร์ บิดาแห่งจุลชีววิทยา (1822-1895), หลุยส์ เดวิด รีล นักการเมือง ผู้นำชนกลุ่มเมทิส ซึ่งตั้งรกรากในแคนาดาเป็นกลุ่มแรกๆ และเป็นผู้นำการก่อกบฏต่อต้านรัฐบาลแคนาดา (1844-1885), และโรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน นักประพันธ์นิยายแนวผจญภัย 

อะไรตื่นตูม



เมื่อมีความทุกข์


Do you understand this article.
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training



วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Fwd: [Uncle Taro(tm)] วิบากกรรม


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training

 

โจมตีหนัก! หลักสูตรทหารของเอมมี่ แม็กซิม


จากกรณีเอมมี่ แม็กซิม หรือเอมมี่ - อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเธอกำลังได้ติดยศทหารในยศ "ผู้กำกับการร้อยตรีหญิง" ก่อนที่จะออกมาแก้ว่าเป็นการฝึกของหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น


ล่าสุด เธอโพสรูปขณะที่สวมใส่ชุดทหาร จึงเป็นประเด็นให้เกิดการขุดคุ้ยว่าเอมมี่ได้ไปเข้าอบรมกับหน่วยงานทหารจริงหรือไม่ โดยพบว่าเอมมี่ได้เข้ากับอบรมกับสถาบันแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "สมาคมกำลังสำรองไทย สมาคมศิษย์เก่านักศึกษาวิชาทหาร และสถาบันรักษาดินแดน" ซึ่งเป็นหลักสูตรผู้บริหาร 5 เหล่า โดยอบรมการฝึกวิชาทหารให้กับบุคคลพลเรือน มีการเก็บค่าใช้จ่าย แต่ล่าสุดผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้ออกจดหมายราชการแจ้งว่า หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความผิดทางกฎหมายต่อไป  

Fwd: [Uncle Taro(tm)] นมคนไทย อยู่ตรงไหน?


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training


 

ยิ่งหนาว นมยิ่งโต ว่างั้นเถอะ...

 

Fwd: [Uncle Taro(tm)] "อิเกีย" เรียกคืนเตียงนอนเด็กใน 17 ประเทศ รวม "ไทย"


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training

 

ส่วนเตียงผู้ใหญ่ เขายังไม่เรียกคืน หมอหน็อยยังคงสามารถใช้บรรเลงต่อไปได้อย่างสบายใจนะครับ...
 

"อิเกีย" เรียกคืนเตียงนอนเด็กใน 17 ประเทศ รวม "ไทย"
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2556 เวลา 08:37 น.


"อิเกีย" บริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของโลกจากสวีเดน สั่งเรียกคืนเตียงนอนเด็กที่ส่งออกไปจำหน่ายใน 17 ประเทศ รวมถึงไทย หลังพบความผิดพลาดในการประกอบชิ้นส่วนเตียงที่เป็นโลหะซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บาดเจ็บ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงสตอล์กโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ว่าบริษัท "อิเกีย" ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งและอำนวยความสะดวกภายในบ้านแบบครบวงจรจากสวีเดน ประกาศเรียกคืนเตียงนอนเด็กใน 17 ประเทศ รวมถึงในไทย หลังพบความผิดพลาดบริเวณส่วนประกอบเตียงที่เป็นโลหะ ซึ่งอาจกลายเป็นอันตรายต่อผู้ใช้

แถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของอิเกียเมื่อวันพฤหัสบดีระบุการเรียกคืนเตียงนอนสำหรับเด็กรุ่น "คริตเทอร์" รหัส 1114-1322 และรุ่น "สนิกลาร์" รหัส 1114-1318 ซึ่งวางจำหน่ายใน 17 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม อังกฤษ จีน สาธารณรัฐเช็ก ไอร์แลนด์ อิสราเอล ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี และไทย

สาเหตุของการเรียกคืนสินค้าดังกล่าวมาจากการที่ทางบริษัทได้รับรายงานว่าส่วนประกอบบริเวณหัวเตียงและข้างเตียงที่เป็นโลหะอาจชำรุดและเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้ ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อเตียงรุ่นนี้ไปแล้วสามารถเลือกได้ทั้งนำสินค้ามาเปลี่ยนเป็นของใหม่ คืนสินค้าและรับเงินคืน หรือนำเตียงมาซ่อมแซม ซึ่งอีเกียจะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น


ขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความหฤหรรษ์ในการร่วมกรุ๊ปครับ
---
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณสมัครรับข้อมูลจากกลุ่ม "Uncle Taro" ของ Google Groups
หากต้องการยกเลิกการสมัครรับข้อมูลและหยุดรับอีเมลจากกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ uncle-taro+unsubscribe@googlegroups.com
หากต้องการดูตัวเลือกเพิ่มเติม กรุณาดูที่ https://groups.google.com/groups/opt_out

Fwd: [Uncle Taro(tm)] เข็มขัดนิรภัย...ช่วยชีวิตได้จริงหรือ?


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/

Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training






เข็มขัดนิรภัย...ช่วยชีวิตได้จริงหรือ?
วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 เวลา 08:45 น.


วันก่อนเข้าไปดูเว็บของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ไปหาดูผลการวิเคราะห์อุบัติเหตุที่จังหวัดสระบุรีจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ศพ ยังไม่เจอ เลยไล่อ่านสาระน่ารู้ที่มีในเว็บ ปรากฏว่าเจอบทความ "เข็มขัดนิรภัย ช่วยชีวิตได้จริงหรือ?" ขออนุญาตผ่านตรงนี้คัดลอกบางส่วนเพื่อเผยแพร่

"เข็มขัดนิรภัย" เป็นอุปกรณ์นิรภัยติดรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดและบรรเทาความรุนแรงให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่จะต้องติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์ทุกคันจากโรงงานผลิต

แม้ว่าในไทยจะออกกฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในที่นั่งตอนหน้าคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ก็ยังพบผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์บางส่วนที่ละเลย ซึ่งอาจเป็นเพราะหลายๆปัจจัย เช่น อึดอัดไม่สะดวก ลืมคาดเนื่องจากความเคยชิน หรือคิดว่าเข็มขัดนิรภัยไม่มีความจำเป็น เป็นต้น ทางศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยได้สำรวจการใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์จากรถยนต์ 10,098 คัน มีผู้ใช้รถยนต์ 15,609 คน ผลปรากฏว่ามีผู้ใช้เข็มขัดนิรภัย 8,547 คนจากจำนวนทั้งหมด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55 ซึ่งนับว่ามีสัดส่วนการใช้ที่น้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศในหลายๆประเทศ

เมื่อพิจารณาการใช้เข็มขัดนิรภัยตามตำแหน่งที่นั่ง พบว่า ตำแหน่งที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลังมีสัดส่วน (ร้อยละ 9) น้อยกว่าในตำแหน่งที่นั่งอื่นๆ จึงฝากเป็นคำถามว่า ทำไมในตำแหน่งที่นั่งนี้จึงมีสัดส่วนการใช้เข็มขัดนิรภัยน้อยกว่าตำแหน่งที่นั่งอื่น? ทั้งที่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นความรุนแรงและการบาดเจ็บคงไม่ต่างกับที่นั่งของผู้โดยสารตอนหน้า

ขอยกตัวอย่างการศึกษาของศูนย์วิจัยฯโดยการนำข้อมูลอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ได้รับการเอื้อเฟื้อจากโรงพยาบาล 2 แห่งมาวิเคราะห์หาอัตราการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้เข็มขัดนิรภัยในอุบัติเหตุทางรถยนต์ และวิเคราะห์หาอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างผู้ใช้และไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย จากการวิเคราะห์หาอัตราการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้เข็มขัดนิรภัยในอุบัติเหตุทางรถยนต์จากข้อมูลอุบัติเหตุ  2,138 ราย พบว่าการใช้เข็มขัดนิรภัยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 34 ซึ่งหมายความว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 100 รายนั้นรอดถึง 34 คนถ้าใช้เข็มขัดนิรภัย และเมื่อวิเคราะห์หาอัตราความเสี่ยงก็พบว่าผู้ที่ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยนั้นมีอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ถึง 1.52 เท่า

ยังมีการศึกษาและงานวิจัยหลายๆชิ้นในต่างประเทศที่พบว่าเข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์นิรภัยที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดและบรรเทาความรุนแรงของผู้ใช้รถยนต์กรณีเกิดอุบัติเหตุ


ไฟเหลือง

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลีกทางให้รถพยาบาล จิตสำนึกที่ใครก็ทำได้

 

หลีกทางให้รถพยาบาล จิตสำนึกที่ใครก็ทำได้
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2556 เวลา 00:00 น.


ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผู้ป่วยยังไม่ถึงมือหมอ รถพยาบาลเป็นอีกหนึ่งพาหนะที่จะช่วยนำพาและหยิบยื่นนาทีแห่งชีวิต และในสถานการณ์ของความเป็นกับความตายบนรถพยาบาลฉุกเฉิน เวลาทุกวินาทีเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเป็นเครื่องชี้ชะตาว่าผู้ป่วยฉุกเฉินจะมีโอกาสรอดชีวิตต่อไปหรือไม่

ดังนั้นการนำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลโดยเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินทุกคนตระหนักถึง แต่ด้วยบางครั้งสภาพการจราจรติดขัด ส่งผลให้หลายชีวิตพลาดโอกาสรอดชีวิต หรือบางครั้งบางคราวความเร่งรีบของรถพยาบาลได้ไปสร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายๆคน ดังเช่นเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จนเป็นเหตุทำให้รถพยาบาลฉุกเฉินที่กำลังช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินถูกตามไล่ยิง ดังนั้นถึงเวลาหรือยังที่สังคมไทยจะร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการ "หลีกทางให้รถพยาบาล"

นายต่อพงษ์ ส่งศรีโรจน์ ผู้จัดการหน่วยกู้ชีพหงส์แดง กรุงเทพมหานคร หนึ่งในทีมกู้ชีพที่มีประสบการณ์การทำงานมากว่าสิบปี กล่าวว่า ทุกครั้งที่นำรถพยาบาลออกเหตุเพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุฉุกเฉินที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยฉุกเฉินทุกราย โดยเฉพาะการออกเหตุในกรุงเทพมหานครที่มีสภาวะการจราจรติดขัดยิ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องเข้าไปช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินให้เร็วที่สุด มีอยู่ครั้งหนึ่งกรณีไปช่วยคุณยายที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ และต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว แต่ขณะขับรถเข้าไปรับผู้ป่วยในช่วงที่ขับรถเข้าซอยมีรถจำนวนมากที่ไม่หลีกทางให้ จนเกือบทำให้ไปรับผู้ป่วยไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรณีในลักษณะเดียวกันที่ประชาชนทั่วไปยังไม่เข้าใจในเรื่องการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน

"หลายคนตั้งคำถามว่าการออกเหตุแต่ละครั้งมีผู้ป่วยฉุกเฉินจริงหรือไม่ที่อยู่บนรถพยาบาลนั้นๆ ผมขอยืนยันว่ามีผู้ป่วยจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยร้ายแรง อาทิ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน อุบัติเหตุที่รุนแรง หรือไม่ก็เป็นรถฉุกเฉินที่กำลังเร่งไปรับผู้ป่วย ดังนั้นหากประชาชนทั่วไปได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนขอทางจากรถพยาบาลฉุกเฉินควรหลีกทางให้ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าบนรถคันนั้นจะเป็นญาติพี่น้องคุณหรือไม่ และควรจะเป็นเรื่องที่เราปฏิบัติทันทีโดยไม่ต้องคิดว่ามีกฎหมายบังคับหรือไม่ แต่ควรปฏิบัติให้กลายเป็นจิตสำนึก"

ผู้จัดการหน่วยกู้ชีพหงส์แดง กรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ประเด็นปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครคือรถพยาบาลฉุกเฉินติดสัญญาณไฟแดง ดังนั้นหากมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการประสานให้มีการเปิดไฟเขียวเพื่อให้รถพยาบาลสามารถนำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงทีก็จะทำให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ด้าน นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในส่วนของ สพฉ. ที่มีบทบาทหลักในการกำหนดมาตรฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นว่าเรื่องนี้ควรมีการรณรงค์อย่างจริงจัง ให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของการหลีกทางให้รถพยาบาล เพราะการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไหร่ก็จะเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยฉุกเฉินมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้เปิดขึ้นทะเบียนและตรวจสภาพรถพยาบาลและรถกู้ชีพเพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว

สำหรับรถกู้ชีพที่จะผ่านมาตรฐานและหลักเกณฑ์ของระบบการแพทย์ฉุกเฉินนั้นจะต้องเป็นรถยนต์ตู้หรือรถกระบะบรรทุกที่มีทะเบียนยานพาหนะถาวร มีหลังคาสูงเพียงพอที่จะทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ได้สะดวก ห้องคนขับและห้องพยาบาลแยกออกจากกันแต่สามารถสื่อสารกันได้ มีแสงสว่างเพียงพอที่จะทำหัตถการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่กระจกหลังต้องมีการติดข้อความชื่อหน่วยปฏิบัติการ หมายเลขโทรศัพท์ 1669 ด้านข้าง และช่วงหลังทั้งสองข้างต้องแสดงตราสัญลักษณ์ของ สพฉ. ติดแถบสะท้อนแสงด้านข้างรถตลอดแนว ดังนั้นหากประชาชนทั่วไปสังเกตเห็นรถพยาบาลในลักษณะดังกล่าวและกำลังเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินควรหลีกทางให้เนื่องจากบนรถคันดังกล่าวมีผู้ป่วยฉุกเฉินหรือกำลังเร่งไปรับผู้ป่วยฉุกเฉิน

สำหรับการทำงานของรถพยาบาลฉุกเฉินเป็นไปตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติการจราจรทางบกมาตรา 75 ซึ่งในขณะที่ผู้ขับขี่รถฉุกเฉินไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้ขับขี่มีสิทธิดังนี้ ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ ใช้เสียงสัญญาณไซเรน หยุดรถหรือจอดรถในที่ห้ามจอดรถ ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้ ขับรถผ่านสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรใดๆที่ให้รถหยุดแต่ต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลงตามสมควร

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารถพยาบาลฉุกเฉินจะได้รับสิทธิตามมาตรา 75 ก็ตาม แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยขาดความระมัดระวังตามควรแก่กรณีแล้ว ผู้ขับขี่มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทได้ด้วยเช่นกัน


ทีมเดลินิวส์38

วิธียับยั้งและคลายอาการเท้าบวมง่ายๆ ที่ทำได้ที่บ้านคุณเอง

 

เทคนิคลดเท้าบวม | เทคนิคสร้างขาสวยด้วยตัวเอง




“พอตกเย็น อาการเท้าบวมก็กำเริบ มันช่างทรมานยิ่งนัก” ปัญหา นี้คงจะเกิดขึ้นกับหลายๆ ท่าน โดยเฉพาะท่านที่ต้องทำงานด้วยการยืนเป็นเวลานานๆ พอตกเย็นรองเท้าที่ใส่ก็เริ่มรู้สึกคับและแน่น สำหรับท่านที่อาการหนักหน่อย ก็ถึงขั้นปวดเท้าจนทนแทบไม่ไหว

สำหรับเท้าบวม มีสาเหตุหลายประการด้วยกัน แต่ในวันนี้ เราจะขอเสนอวิธีการดูแลขั้นต้น ไม่ให้เกิดอาการเท้าบวม เป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

1. อาหาร
สาเหตุ หนึ่งที่ทำให้เท้าของเราบวมก็มาจากอาหารที่เราทานนั่นเอง ปัจจุบันมนุษย์บริโภคเกลือมากเกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ จากผลสำรวจการบริโภคเกลือของคนญี่ปุ่นในปี 2005 มาตรฐานการบริโภคเกลือต่อวันในผู้ชายจะต่ำกว่า 10 กรัม และผู้หญิงจะต่ำกว่า 8 กรัม แต่ในความเป็นจริงจากผลสำรวจนั้น คนญี่ปุ่น บริโภคเกลือถึง 11 – 12 กรัมต่อวันเลยทีเดียว

2. จุดในร่างกาย
การ กดจุด สำหรับอาการเท้าบวมนั้น จากทางการแพทย์แผนจีนแล้ว เป็นที่ยอมรับว่าได้ผลดี การรักษาแบบนี้ เป็นการกระตุ้นจุดในร่างกาย โดยใช้นิ้วกดตามจุดต่างๆ ดังนี้...
จุดแรก    คือ จุดตรงกึ่งกลางหัวเข่า
จุดที่สอง    คือ จุดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างปลายเท้า และหัวเข่า จากภาพคือจุดล่างสุด
จุดที่สาม    คือ จุดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างจุดแรก และจุดที่สอง จากภาพคือจุดที่อยู่อันดับที่สอง
จุดที่สี่     คือ จุดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างจุดที่สองกับจุดที่สาม จากภาพจะอยู่ในอันดับที่สามนั่นเอง






วิธีการกดจุด
นั่ง บนพื้นหรือเก้าอี้ กดเบาๆ ไปตามจุดที่กล่าวข้างต้น ในขณะที่กดจุดนั้น ให้กลั้นหายใจไปด้วย ครั้งละ 3 วินาที ผ่านไป 3 วินาทีก็สูดลมหายใจอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยตัวตามสบาย ไม่เกร็ง

จากภาพ ให้กดไล่จากข้างบนลงไปหาข้างล่าง ตามลำดับ จุดละประมาณ 1 นาที





3. นวดบริเวณต่อมน้ำเหลือง บริเวณแถบด้านในขาหนีบ
อาการ เท้าบวม อาจเกิดจากสาเหตุของการไหลเวียนน้ำในร่างกายผิดปกติหรือบกพร่องไป เพราะฉะนั้นการนวดบริเวณต่อมน้ำเหลืองจะช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น




   
4. วิธีการนวดบริเวณต่อมน้ำเหลือง
1) นวดจากเท้าขึ้นมาบนหัวเข่า นวดเบาๆ ไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก
2) บริเวณหลังหัวเข่า จะเป็นจุดของต่อมน้ำเหลือง นวดเบาๆ ที่บริเวณนั้น
3) และต่อด้วย นวดจากหัวเข่า ขึ้นมาจนกระทั่งบริเวณขาหนีบตามเส้นของต่อมน้ำเหลือง ทำอย่างละ 10 ครั้ง


สามารถทำในขณะแช่น้ำร้อนตอนอาบน้ำ เพราะในขณะที่แช่น้ำนั้น การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีมาก หากลองทำรับรองได้ผลแน่นอน

เรื่องโดย : Matharin www.marumura.com
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://diet.beauty.yahoo.co.jp/db/detail/54/?page=2
http://www.9.channel.com 


กลุ่ม "ชายรักชาย" ติดเอดส์พุ่งไม่หยุด สาเหตุหลักใช้ถุงยางแค่ร้อยละ 65


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training



 

อาหมูไปตรวจเลือดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ฮะ?...
 



กลุ่ม "ชายรักชาย” ติดเอดส์พุ่งไม่หยุด สาเหตุหลักใช้ถุงยางแค่ร้อยละ 65
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2556 เวลา 20:06 น.


กลุ่ม "ชายรักชาย” ติดเอดส์พุ่งไม่หยุด สาเหตุหลักใช้ถุงยางแค่ร้อยละ 65 กทม. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ารณรงค์ให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 56 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัด กทม. เป็นประธานเปิดการประชุมรายงานสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ และคาดประมาณการติดเชื้อเอชไอวีในอนาคตในพื้นที่ กทม. โดย นพ.วิวัฒน์ พีรพัฒนโภคิน ผู้ทำการศึกษาโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพเพื่อดำเนินงานด้านเอดส์ของ กทม. มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า ปี 2556 กทม. มีผู้ติดเชื้อสะสม 163,000 คน ยังมีชีวิตประมาณ 64,000 คน และมีผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ 2,300 คน โดยร้อยละ 61.2 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในกลุ่มชายรักชาย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักเห็นความสำคัญ มีการแพร่ระบาดที่รุนแรง และไม่มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 17-24 ปีที่มีการติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด

นพ.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขอเสนอให้ กทม. เป็นผู้นำในการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์รณรงค์ให้กลุ่มชายรักชายได้ตระหนักในความเสี่ยง ใช้ถุงยางอนามัยให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 เพราะขณะนี้มีการใช้ถุงยางเพียงร้อยละ 65 ดังนั้นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ สำหรับการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ เช่น ในกลุ่มของการซื้อขายบริการทางเพศ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการใช้ถุงยางถึงร้อยละ 80 และพบว่าการติดเชื้อจากการใช้สารเสพติดลดลงในระดับหนึ่งเนื่องจากขนาดประชากรกลุ่มนี้ลดลง การใช้เข็มร่วมกันลดลง ความถี่ในการฉีดลดลง เป็นผลจากการรณรงค์ในการป้องกันและการบำบัด แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้านนายพีระพงษ์ กล่าวว่า ผลของการศึกษาสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในครั้งนี้จะนำมาจัดทำแผนเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเสี่ยงใน กทม. ที่มีพนักงานบริการทางเพศหญิง 25,000 คน กลุ่มลูกค้าซื้อบริการทางเพศ 165,000 คน กลุ่มชายรักชาย 66,000 คน และกลุ่มใช้สารเสพติดชนิดฉีด 40,000 คน


อยากสูงและฉลาด ต้องนอนหลับให้เพียงพอ

 
อยาก "ใหญ่" ข่าวไม่ได้แจ้งนะน้องเอ๊ดแอ้...
 





อยากสูงและฉลาด ต้องนอนหลับให้เพียงพอ


การนอนหลับมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตและสุขภาพที่ดี ผู้ใหญ่ควรนอนหลับให้ได้วันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่สำหรับเด็กๆควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้มากกว่าผู้ใหญ่ โดยเด็กประถมต้น (อายุ 6-8 ขวบ) ควรนอน 11 ชั่วโมง เด็กประถมปลาย (อายุ 9-11 ขวบ) ควรนอน 10 ชั่วโมง เด็กมัธยมต้น (อายุ 12- 14 ปี) ควรนอน 9.25 ชั่วโมง เด็กมัธยมปลาย รวมทั้ง ปวช. (อายุ 15-17 ปี) ควรนอน 8.5 ชั่วโมง

การนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายของเด็กๆเติบโตสูงขึ้น เพราะในเวลาที่เด็กๆนอนหลับสนิทต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมนชื่อ Growth Hormone ออกมา ถ้าเด็กนอนไม่พอ Growth Hormone จะถูกหลั่งออกมาน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ตัวเตี้ย ไม่สูงเท่าที่ควร นอกจากนี้การนอนไม่พอยังส่งผลให้การเรียนตกต่ำเนื่องจากความง่วงนอนทำให้การรับรู้ ความเข้าใจ สมาธิ การเรียนรู้สิ่งใหม่ การแก้ปัญหา และความจำลดน้อยลง การนอนไม่พอยังทำให้เด็กๆมีอารมณ์รุนแรง มีพฤติกรรมก้าวร้าว หงุดหงิด ภูมิต้านทานต่ำ และเจ็บป่วยง่าย

ผู้ใหญ่ควรสอนให้เด็กรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น จัดลำดับความสำคัญว่าควรทำอะไรก่อนหลัง รีบทำการบ้านให้เสร็จตั้งแต่หัวค่ำ เมื่อใกล้ถึงเวลานอน เด็กๆไม่ควรเล่น ควรผ่อนคลาย ทำใจให้สงบ ไม่กังวล ไม่เคร่งเครียดคิดแก้ปัญหาต่างๆ เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลานอนต้องหยุดกิจกรรมอย่างอื่นทุกอย่าง รวมทั้งหยุดคุยโทรศัพท์มือถือ หยุดเล่นเกมออนไลน์ ใช้อินเทอร์เน็ต หยุดดูโทรทัศน์ และเด็กๆควรเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันเรียนหรือวันหยุด

มีการศึกษาพบว่าการงีบหลับเพียงระยะเวลาสั้นๆจะทำให้เด็กฉลาดขึ้น ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการรณรงค์ให้เด็กญี่ปุ่นงีบหลับเวลากลางวันเพื่อความได้เปรียบทางสติปัญญามากว่า 3 ปีแล้ว และในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ได้บรรจุวิชาการนอนหลับในชั่วโมงการเรียนการสอนของเด็กในระดับมัธยมตอนปลายมา 2 ปีแล้ว 

วิธีผ่าคลอดลูก...รักแม่ให้มากๆนะ


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training


 
เนื่องในวันแม่ครับ...