ads by google

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Fwd: [LookMiM:98299] YouTube...ยาหมอบอก : 10 อันดับ การใช้ยาผิด - 6 ต.ค. 56


Do you understand this article.
http://understand2article.blogspot.com/
Please re-write this article to me,thank a lot.

Human Resource Online Training


 







ยาหมอบอก : 10 อันดับ การใช้ยาผิด - 6 ต.ค. 56
ยาหมอบอก จัดอันดับ 10 การใช้ยาแบบผิดๆ ที่คนไทยมักทำกัน บางเรื่องส่งผลแค่กินยาเข้าไป ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไปจนถึงการเสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต มาพร้อมการทดลองที่เข้าใจง่ายและคำแนะนำดีๆ หากใช้ยาผิดไปแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อ กับ ภก.ธีรัตถ์ เหลืองมั่นคง ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ว่าการลืมกินยา การใช้/กินยาที่เหลือ โดยไม่ไปหาหมอ อันตรายจากการหยุดกินยาบางชนิดทันที เมื่อหายป่วย การกินยานอนหลับ ยาฉลาด มีจริงไหม ลืมกินยาคุม เริ่มกินใหม่อย่างไร ใครจะรู้ว่าแค่ไม่อ่านฉลากยา ซื้อยากินเอง มีโอกาสเสียชีวิตเลยทีเดียว

รายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ที่จะเปลี่ยน"ความเข้าใจผิด" เกี่ยวกับยา ผลิตภัณฑ์ยา วิตามิน อาหารเสริม และเวชสำอางค์ ให้เป็นความรู้ ประกอบการสาธิตและการทดลองที่เข้าใจง่าย ในรายการ ยาหมอบอก ออกอากาศใน วันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส Thai PBS และทาง Mahidol Channel ทาง CTH ช่อง 107
Facebook : http://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : http://www.mahidolchannel.com
©2013 YouTube, LLC 901 Cherry Ave, San Bruno, CA 94066



 
๐ สมัครเป็นสมาชิก ส่งเมล์เปล่ามาที่ lookmim-subscribe@googlegroups.com
๐ ลาออก หรือปรับรูปแบบการรับเมล์ ไปที่ http://groups.google.com/group/lookmim/subscribe
๐ เยี่ยมชม / ดูหัวข้อเก่า ได้ที่ http://groups.google.com/group/lookmim
๐ ตรวจสอบสถานภาพ เมื่อไม่ได้รับเมล์ตามปกติ http://groups.google.com/groups/bounced
 
---
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณสมัครรับข้อมูลจากกลุ่ม "LookMiM" ของ Google Groups
หากต้องการยกเลิกการสมัครรับข้อมูลและหยุดรับอีเมลจากกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ lookmim+unsubscribe@googlegroups.com
หากต้องการดูตัวเลือกเพิ่มเติม กรุณาดูที่ https://groups.google.com/groups/opt_out

Fwd: [LookMiM:98300] 'สังฆราช' สมณะผู้ทรงธรรม


 

'สังฆราช' สมณะผู้ทรงธรรม

โดย : ผกามาศ ใจฉลาด

"สมเด็จท่านสิ้นพระชนม์แล้ว" เสียงสั่นเครือของพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัย 53 ปี

หลังสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2556 เวลา 19.30 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บรรดาลูกศิษย์ ผู้รับใช้ใกล้ชิด พุทธศาสนิกชนที่ไปนั่งสวดมนต์และนั่งเจริญจิตตภาวนาอยู่นอกห้องที่ประทับ ต่างเศร้าสลดใจ แม้ปากจะนั่งสวดมนต์อธิษฐานจิตส่งเสด็จพระองค์ท่าน แต่เสียงสวดมนต์ปนไปด้วยเสียงสะอื้นและใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้ม

ณ เวลานี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อสมเด็จพระสังฆราชว่า การเคารพนับถือพระองค์ท่านไม่ได้อยู่แค่ในฐานะพระอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่พระองค์ท่านเป็นเสมือนพ่อที่ดูแลสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก

"สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ ประเทศเนปาลเมื่อปี 2513 ทรงรับปากคณะสงฆ์เนปาลไว้ว่า จะช่วยฝึกพระเณรประเทศเนปาล เพื่อได้รับการศึกษาที่ถูกต้องและกลับไปเผยแผ่ ก่อนหน้านั้นบวชเณรที่ศรีลังกา 9 เดือน จากนั้นอาตมาได้เข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราชครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2518 อาตมาไม่ทราบว่าหน้าตาสมเด็จพระสังฆราชเป็นอย่างไร มาจากสนามบินพระอาจารย์จากเนปาลก็นำเข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราช"

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ เล่าว่าจำได้ว่าเมื่อได้เข้าเฝ้าครั้งแรกพอกราบเสร็จ พระองค์ก็ให้ไปหาพระเลขาที่กุฏิข้างๆ ความทรงจำตอนนั้นเห็นพระพักตร์ครั้งแรก จำได้แค่ว่า ทรงยิ้ม พระพักตร์เปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็จำไม่ได้ แต่ทรงทราบดีว่าอาตมาเป็นสามเณรเนปาลเชื้อสายศากยวงศ์

"อาตมานับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ในพระเมตตาอุปถัมภ์ดูแลเหมือนกับลูกคนหนึ่งของพระองค์ การมีเชื้อศากยวงศ์ของอาตมา พระองค์มีความโปรดปรานเป็นพิเศษตรงที่ว่า เป็นเชื้อสายศากยวงศ์ของพระพุทธเจ้า เวลาเสด็จเนปาลพระองค์มักจะถามเรื่องนี้ หรือเวลาอยู่ในไทยทรงจะชี้ให้ทุกคนเห็นว่า นี่เขาเป็นเชื้อสายศากยวงศ์นะ แสดงให้เห็นว่าทรงมีความภาคภูมิใจในความเป็นศากยะระดับหนึ่ง แต่อาตมาเองไม่มีอะไรเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสสนองงานถวาย รู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย มีโอกาสสนองงานถวายเทียบกับสามเณรและพระวัดบวรมีกว่า 20 รูปขณะนั้น"

เรียนจบปริญญาเอกด้านมานุษยวิทยามา เป็นการผลักดันของสมเด็จพระสังฆราชเอง ไม่ใช่เป็นความใฝ่ฝันของอาตมาเลย ทรงให้ไปศึกษา เมื่ออาตมากลับมาก็ทรงภูมิพระทัยบอกว่านี่เขาเป็น"ดอกเตอร์"แล้วนะ ทรงชี้ว่าหน้าที่ของคุณตอนนี้ก็คือ สอนสิ่งที่คุณเรียนมา ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากที่อยู่ในการบริหารและงานเอกสาร ต้องเจอผู้คน เมื่อสมเด็จพระสังฆราชขีดเส้นให้อย่างนั้น ในฐานะลูกศิษย์ก็น้อมรับ พยายามทำตัวให้ดีที่สุด เริ่มทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนในสิ่งที่เรียนมา

การอบรมสั่งสอนของสมเด็จพระสังฆราช เป็นไปอย่างมีแบบแผน พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ บอกว่า สมัยเป็นสามเณรชอบนึกเสมอว่าทำไมต้องเป็นเรา อยากจะเล่น อยากจะหนี แต่ถูกบังคับให้มาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช แต่ตอนนี้หากมองย้อนกลับไปอาตมารู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย

"สิ่งที่สมเด็จพระสังฆราชทรง สอนนั้น คงยากจะย่อความออกมา ในสิ่งที่ทรงทุ่มเทให้อาตมา แต่สิ่งที่เห็นคือ การวิจัย การวิจารณ์ การพัฒนาโยนิโสมนสิการเรื่องข้อธรรมะต่างๆ สมเด็จพระสังฆราช จะมีจุดเด่นที่ว่าพระองค์ทรงโปรดที่จะวิเคราะห์ข้อธรรม ไม่ใช่ว่ารับเข้ามาเฉยๆ พระองค์จะทรงนั่งสอนว่าดูสิพระไตรปิฎกนี้อ่านเมื่อไหร่ก็ได้ความรู้ใหม่ๆแม้ ว่าอ่านมา 30-40 ปีก็ตาม ซึ่งแต่ละประเด็นที่ทรงยกตัวอย่างแสดงให้เห็นว่ามีวิธีคิดใหม่ๆ หรือว่าวิธีที่ทรงสอนเอง บางครั้งทรงสอนแบบไม่มีข้อกังขา ทำให้จุดหนึ่งเรากล้าที่จะศึกษา กล้าที่จะค้นคว้า"

"ความอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่าย"คือสิ่งที่พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นต้นแบบ "จากพระจริยวัตรของพระองค์ ทรงอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยถือพระองค์ว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราช หากมีพระผู้ใหญ่เข้ามาแม้มีพรรษามากกว่าแค่ 1 วัน พระองค์จะลดพระองค์ลงมาจากอาสนะมากราบ เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนที่เห็นมาตลอด"

ทรงเรียบง่าย มีความเป็นสมณะไม่อยู่อย่างหรูหรา เวลาเสด็จไปไหนไม่ได้รับจตุปัจจัยใดๆที่ญาติโยมถวายเลย ทรงถวายคืนเพื่อให้เขาไปทำบุญต่อ ทรงรับสั่งว่า เขานิมนต์พระสังฆราชและนิมนต์ด้วยความยากลำบาก ท่านบอกว่าไปไม่ใช่เพื่อรับของ แต่ไปเพื่อช่วยงานเขา เพื่อให้งานเขาสำเร็จและทรงทำเช่นนี้มาตลอด ก็เป็นภาพที่ประทับใจมาโดยตลอดว่านี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า "สมณะ"

Tags : สมเด็จพระสังฆราช


 

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ต้นไม้บ้านใครอ่ะครับ

กรากาตัวคืออะไร




กรากาตัว
คอลัมน์: รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น


"กรากาตัว" (Krakatoa หรือ Krakatau) เป็นชื่อภูเขาไฟที่อยู่บนหมู่เกาะชื่อเดียวกันในช่องแคบซุนดาระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตรา หมู่เกาะกลุ่มเล็กๆนั้นประกอบด้วย 3 เกาะ คือ เกาะลัง (Lang) เกาะเวอร์ลาเต็น (Verladen) และเกาะรากาตา (Rakata) ซึ่งรากาตานี้เองที่บ่อยครั้งที่ใช้คำว่ากรากาตัวแทนไปโดยปริยาย

บนเกาะรากาตาหรือกรากาตัวมีภูเขาไฟ 3 ลูก ได้แก่ เพอร์โบวาตาน (Perbuatan - 122 เมตร) อยู่ด้านเหนือสุด ถัดมาเป็นภูเขาไฟฝาแฝด คือมี 2 ปล่อง ชื่อ ดานาน (Danan - 445 เมตร) ส่วนภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะอยู่ทางใต้สุดชื่อเดียวกับชื่อเกาะ คือรากาตา (823 เมตร)

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ พื้นผิวเปลือกโลกบริเวณที่รองรับประเทศอินโดนีเซียที่เรียกว่าอินโดนีเซียนเพลต หรือเอเชี่ยนเพลต ถูกเปลือกโลกอีกแผ่นคือออสเตรเลียนเพลตเคลื่อนที่เข้ากระแทกแล้วมุดเข้าไปใต้เปลือกโลกเอเชี่ยนเพลต เมื่อมีที่ตั้งอยู่บนจุดที่เป็นทั้งรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนที่ในอัตราที่สูง และเป็นส่วนของแผ่นเปลือกโลกที่มีความบางมาก เมื่อแรงกดและความตึงเครียดสะสมได้ระดับที่พร้อมจะปลดปล่อยออกมาจึงทำให้เป็นจุดเปราะบางที่จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้บ่อยครั้ง

กรากาตัวมีแนวเส้นภูเขาไฟพาดผ่านใจกลางเกาะ หินและธาตุภูเขาไฟทำให้เป็นเกาะอุดมสมบูรณ์ มีผู้คนมาตั้งรกรากเริ่มจากทำเกษตรกรรม และต่อมาบริเวณนี้เป็นช่องแคบสำคัญ มีเรือสัญจรตลอดเวลา หมู่เกาะเล็กๆจึงกลายเป็นชุมชนใหญ่ที่มีถึงกว่า 160 หมู่บ้าน ภูเขาไฟกรากาตัวมีการระเบิดหลายครั้ง พ่นแร่ธาตุออกมาทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยการระเบิดครั้งสุดท้ายก่อนการระเบิดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2224 หลังจากนั้นกรากาตัวก็สงบนาน 202 ปี จนถึง พ.ศ. 2426 เปิดหนังสือ ภู-มี-ศาสตร์ โดยบินหลา สันกาลาคีรี เขียนไว้ว่า เหตุการณ์ระเบิดครั้งรุนแรงของกรากาตัว "อาร์ดีเด็ม เวอร์บีค" เจ้าหน้าที่สำรวจของบริษัทเนเธอร์แลนด์ตะวันออกผู้อยู่ในเหตุการณ์ บันทึกแทบจะนาทีต่อนาทีดังนี้

วันที่ 20 พฤษภาคม (2426) ภูเขาไฟเพอร์โบวาตานส่งเสียงเตือนเบาๆ ปากปล่องพ่นเถ้าถ่านออกมาสูง 6 กิโลเมตร ต่อมา 19 มิถุนายน ภูเขาไฟดานานตรงกลางเกาะเริ่มประสานงานด้วย และ 11 สิงหาคม ไม่เพียงแค่พอร์โบวาตาน, ดานาน และรากาตาเท่านั้นที่กรุ่นควันพ่นเถ้าถ่าน รอยแยกเล็กรอยแยกน้อยเคียงข้างปล่องภูเขาไฟก็ร่วมปลดปล่อยไอพิโรธจากใต้ผืนดิน นับรวมทั้งสิ้นได้ 11 ปล่อง 24 สิงหาคม บ่ายโมง เปลวไฟปะทุ 26 สิงหาคม ปฐพีสะเทือน เวลาบ่าย 2 โมงฟ้ามืดเหมือนยามกลางคืน เถ้าและควันคลุมสูงขึ้นไป 27 กิโลเมตร เสียงระเบิดถี่และกึกก้องแทบจะทุก 10 นาที เรือในทะเลที่ห่างฝั่งร่วม 20 กิโลเมตรรายงานตรงกันว่าพายุหินร้อนๆสาดใส่ดุจสายฝน และคลื่นสึนามีเกิดห่างออกไป 40 กิโลเมตร

วันอาทิตย์ 27 สิงหาคม 2426 การระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่สว่าง 05.30 น. แล้วอีกครั้ง 06.42 น. อีกครั้ง 08.20 น. กระทั่ง 10.01 น. กรากาตัวพินาศโดยสมบูรณ์ เสียงระเบิดดังได้ยินถึงย่านเกาะมอริเชียสซึ่งไกลออกไปถึง 4,800 กิโลเมตร เป็นการระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่มีมาในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ ปริมาณลาวาทะลักล้นมหาศาล ผนวกกับคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 100 ฟุต กวาดกลืน 160 หมู่บ้านหายในพริบตา ผู้คน (ตัวเลขอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา) 36,417 คนเซ่นสังเวย และเวอร์บีคบันทึกด้วยว่าบนเกาะกรากาตัวไม่มีภูเขาไฟเพอร์โบวาตานอีกต่อไป ดานานก็ไม่มี รวมทั้งผืนแผ่นดินเกาะอีกราว 2 ใน 3 จมหายสาบสูญไปในทะเล

ต้น พ.ศ. 2470 มีการค้นพบภูเขาเล็กๆก่อตัวขึ้นกลางทะเลบริเวณที่เพอร์โบวาตานกับดานานจมหายไป ภูเขานั้นเติบโต
อย่างวดเร็ว เมื่อถึงกลางเดือนมิถุนายนปีเดียวกันยอดของมันก็โผล่ขึ้นเหนือน้ำ เป็นเกาะหินชัดเจน ชาวอินโดนีเซียเรียกชื่อ "อนัค กรากาตัว" (Anak Krakatoa) อนัค แปลว่าเด็กเล็กๆ มันคือหนูน้อยกรากาตัวนั่นเอง เป็นหนูน้อยที่ความสูงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นอนัค กรากาตัวลำดับที่ 2, 3 และ 4 ก็ทยอยพ้นผิวมหาสมุทรขึ้นมาตามลำดับ และหนูน้อยทั้งหมดเป็นภูเขาไฟ 

ข้าวฮาง ก็คือข้าวน้ำนมที่แก่เกินกว่าจะทำข้าวเม่าหจริงหรือ




ข้าวฮาง
คอลัมน์: รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น


ได้ความรู้เรื่อง "ข้าวฮาง" จากสำนักงานกรมส่งเสริมการเกษตร ว่า ข้าวฮางเป็นข้าวน้ำนมที่มีระยะแก่เกินจะทำข้าวเม่า แต่ยังไม่สุกพอระยะเก็บเกี่ยวหรือระยะพลับพลึง (รวงแก่ประมาณ 80%) จากนั้นนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำและนำไปนึ่ง ก่อนจะสีเป็นข้าวกล้อง ข้าวฮางทำได้ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว

การสีข้าวฮางเป็นการนำเอาเปลือกหรือเอาแกลบออกโดยที่จมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดไม่แตกหักไปไหน เส้นใยและโปรตีนที่มีคุณค่าจึงอยู่ในเมล็ดครบ และเนื่องจากการนึ่งข้าวให้สุก เมล็ดข้าวจะเหนียวไม่มีเมล็ดแตกร้าว เมื่อนำไปสีจึงทำให้ข้าวฮางมีสีเหลือง ทั้งนี้ ข้าวฮางแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ 1. ข้าวฮางระยะน้ำนม 2. ข้าวฮางที่นำข้าวเปลือกไปแช่น้ำ 24 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่ง และ 3. ข้าวฮางที่นำข้าวเปลือกไปแช่น้ำ 24 ชั่วโมง นำมาบ่ม 48 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่ง หรือเรียกข้าวฮางงอก

การนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำก่อนนำไปนึ่งก็เพื่อกระตุ้นให้เกิดการงอก ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในเมล็ดข้าว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของปริมาณสารกาบา - GABA (Gamma Amino Butyric Acid) ในเมล็ดมากเป็น 10 เท่าของข้าวสาร และเกิดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แกมมาออริซานอล วิตามินอี สารฟีโนลิก ไลซีน และสารกาบา ซึ่งในข้าวกล้องงอกมีสารกาบาเป็นสารอะมิโนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการการงอกของเมล็ด สารกาบาที่อยู่ในเมล็ดข้าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อข้าวงอก และจะเพิ่มถึง 15 เท่าเมื่อข้าวงอกมีอายุ 1-2 วัน หลังจากนั้นสารกาบาก็จะลดลงเรื่อยๆ

ประโยชน์;
     1. สารกาบาจะทำหน้าที่เป็นสื่อประสาทส่วนกลาง และเป็นสารสื่อประสาทประเภทยับยั้ง ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมอง ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อซึ่งทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยการเจริญเติบโต และป้องกันไขมันชื่อลิโพโทรปิก (Lipotropic)
     2. สารกาบาช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสม่ำเสมอ ชะลอความแก่ชรา ควบคุมระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด รวมทั้งขับเอ็นไซม์เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นการขับน้ำดีเสื่อม ในวงการแพทย์มีการใช้สารกาบารักษาโรคเกี่ยวกับประสาท เช่น โรควิตกกังวล โรคนอนไม่หลับและโรคลมชัก
     นอกจากสารกาบาข้าวฮางยังมีสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด ได้แก่ 3. โปรตีน
     4. ธาตุแมงกานีส ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
     5. วิตามิน ช่วยเผาผลาญพลังงานได้หมด ทำให้ไม่อ้วน
     6. แร่ธาตุไนอะซีน ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น (ทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว)
     7. ระบบประสาทไว
     8. เส้นใยสูงกว่าข้าวขาวอย่างน้อย 3-8 เท่า มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
     9. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ตับอ่อนจะมีการผลิตอินซูลีนในระดับที่สมดุลระหว่างการกินกับการใช้น้ำตาลของร่างกาย การกินข้าวฮางจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
     10. ในข้าวฮางยังมีวิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ซีเลเนียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ธาตุเหล็กสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโลหิตจาง ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้มีมากกว่าข้าวขาว

ข้าวทุกพันธุ์นำมาทำข้าวฮางได้ แต่คนอีสานนิยมนำข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข 6 มาทำข้าวฮาง เนื่องจากปลูกอยู่ประจำ ทั้งข้าวหอมมะลิมีกลิ่นหอม เหนียวนุ่มน่ารับประทาน ยิ่งถ้าใส่สมุนไพรลงไปก็ยิ่งเพิ่มคุณค่าของข้าวฮาง ทั้งนี้ ข้าวฮางที่ดีมีข้อสังเกต
     - จมูกข้าวอยู่เต็มเมล็ด ไม่มีรอยแหว่งตรงปลายเมล็ดซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่มีประโยชน์
     - สีของเมล็ดข้าวเป็นสีน้ำตาลทอง อาจมีสีเข้มหรือจางกว่านี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว แสดงว่าเส้นใยอาหารยังไม่ถูกขัดสีออก
     - ไม่มีข้าวพันธุ์อื่นหรือสิ่งเจือปน สะอาด
     - เป็นข้าวที่อบหรือตากจนแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นอับชื้น ขึ้นรา หรือมีมอด 
     - บรรจุในภาชนะหรือถุงที่สะอาดปิดสนิท ระบุสถานที่ผลิตและราคาขาย
     - การซื้อมาบริโภคควรซื้อมาในปริมาณที่บริโภคหมดภายใน 2-3 สัปดาห์ และเมื่อเปิดภาชนะหรือถุงใช้แล้วควรปิดฝาให้สนิท เก็บในที่แห้งสนิทและสะอาด  

เห็นใจหน่อยพวกว่างงาน