บทความ สาระความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ที่มีอยู่จริงในปัจจุบัน ทั้งข้อความ รุปภาพ คลิป เสียง ครบทุกประเภท
ads by google
วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555
คำคมภาษาอังกฤษ
Never fear shadow.
They simply mean
there’s a light shining
some where near by.
อย่ากลัวเงา เพราะเงา
หมายความว่ามีแสงสว่าง
ส่องอยู่ใกล้ ๆ สักแห่ง
------
It takes two flints to make a fire.
- – Louisa May Alcott – -
ต้องใช้หินถึง2ก้อนถึงจะเกิดไฟได้
------
They simply mean
there’s a light shining
some where near by.
อย่ากลัวเงา เพราะเงา
หมายความว่ามีแสงสว่าง
ส่องอยู่ใกล้ ๆ สักแห่ง
------
It takes two flints to make a fire.
- – Louisa May Alcott – -
ต้องใช้หินถึง2ก้อนถึงจะเกิดไฟได้
------
วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555
Sufficiency Economy เศรษฐกิจพอเพียง
2 หลัก เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวคิดของในหลวง
3 เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง การดำเนินเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บน
4 เศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยคุณลักษณะที่สำคัญ 3 ประการ
1). ความพอประมาณ =ไม่น้อย ไม่มาก โดยไมเบียดเบียนผู้อื่น
2). ความมีเหตุผล = การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพ
3). การมีภูมิค้มกันที่ดีในตัว = การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ
5 เศรษฐกิจพอเพียง แบ่งออกได้ 3 ลักษณะ
1). เศรษฐกิจพอเพียงระดับบุคคลหรือค
ไม่เบียดเบียนผู้อื่น อยู่ได้ทุกสถานการณ์
2). เศรษฐกิจพอเพียงระดับชุมชน = ชุมชนดำรงชีวิตด้วยการช่วยเหลือ
เครือข่ายระหว่างกัน นำไปสู่ความสมดุลย์ ชุมชนที่มีความเข้มแข็ง
3). เศรษฐกิจพอเพียงระดับประเทศ= การรวมกลุ่มของชุมชนหลายๆ ชุมชนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกันพัฒนาเกิดเป็นสังคมแห่งค
เพียงเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประ
6 เศรษฐกิจพอเพียง มีหลักการที่สำคัญ 3 ประการ
1). หลักตนเป็นที่พึ่งตน
2). หลักการรวมกลุ่มของชุมชน
3). หลักความสามัคคี ความเอื้อเฟื้อ ความเอื้ออาทร
7 แนวคิดของหลักเศรษฐกิจพอเพียง = การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานขอ
8 แนวคิดระบบเศรษฐกิจพอเพียงตั้งอ
ขั้นที่1 ความพอเพียงเลี้ยงตัวเอง
ขั้นที่2 การรวมพลังเป็นกลุ่มการผลิต
ขั้นที่3 การสร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพ
9 เศรษฐกิจพอเพียงสอดคล้องกับการพ
1). เศรษฐกิจ
2). สังคม
3). สิ่งแวดล้อม
10 ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้ความส
11 การพึ่งตนเองตามหลักเศรษฐกิจพอเ
โดยยึดหลัก พออยู่ พอกิน พอใช้
12 ระบบเศรษฐกิจพอเพียงยึดหลักการ=
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ birdy www.thailocalmeet.com
วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555
10 เคล็ดลับหน้าใส อย่างฉับไว
10 เคล็ดลับหน้าใสส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ ทั้งบำรุงผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าขาวขึ้น กระชับริ้วรอย มักจะทำมาจากวัสดุที่ได้จากธรรมชาติที่คุณๆ รับประทานและเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ….. แล้วทำไมเราไม่นำวัตถุดิบเหล่านั้นมาใช้โดยตรงด้วยตัวคุณเอง เพื่อให้ได้รับสุขภาพผิวที่คุณต้องการ วันนี้ H2YouSHOP มี 10 เคล็ด (ไม่) ลับหน้าใส ด้วยตัวคุณเองมาฝากจากธรรมชาติกัน
1. นำผ้าไปแช่ในน้ำอุ่น นำมาโปะไว้ที่หน้าเพื่อเปิดรูขุมขนของเรา จากนั้นใช้น้ำผึ้งทาลงบนใบหน้าทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น และนำผ้าที่แช่ด้วยน้ำเย็นมาเช็ดทำความสะอาด
2. ใช้ไข่แดงดิบทาลงบนใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
3. ใช้ไข่ขาวมาพอกหน้า รอจนไข่ข้าวแห้งจนมีสีขาว คุณจะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวหน้า
4. วิธีที่ง่ายๆ อีกวิธีคือใช้ผลองุ่นเพียงครึ่งลูก ถูลงบนใบหน้าจนน้ำจากองุ่นซึมเข้าผิวหน้า แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
5. นำกล้วยสุกมาบดจนละเอียดแล้วนำไปพอกใบหน้าของคุณ ทิ้งไว้ 15-30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
6. โยเกิร์ตที่เราคุ้นเคยที่สามารถฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิวหน้าได้ดี นำมาพอกหน้าใช้เวลา 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
7. ถ้าหากริมฝีปากของคุณแห้งและแตกใช้คุณใช้น้ำมันมะกอกทางที่ริมฝีปากของคุณให้ชุ่มชื้นก่อนนอน
8. นำอะโวคาโดบดให้ละเอียดและนำไปพอกหน้า ใช้เวลา 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด อโวคาโดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและยังช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้อย่างดี
9. เตรียมนมสดหรือนมจืด ใส่ในแก้วเล็กๆ นำคอตตอนบัดจุ่มนมจืดในชุ่ม เช็ดให้ทั่วไปหน้าจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าผิวหน้ากระชับ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น คุณจะรู้สึกว่าผิวหน้าของคุณนุ่มขึ้น
10. ใช้ Baking Soda ในการช่วยผลัดผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าของคุณได้นะคะ
เตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
ก่อนที่จะไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เราควรจะต้องทราบก่อนว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ขั้นตอนและวิธีปฎิบัติขณะบริจาคโลหิตต้องทำอย่างไร
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต
1. มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป
2. อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์ ( ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี)
3. มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่อยู่ระหว่างไม่สบายหรือรับประทานยาใดๆ
4. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือติดยาเสพติด
5. สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์หรือ ให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
- นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในเวลาปกติคืนก่อนวันบริจาค
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กเพิ่ม
- รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากจะทำให้สีของพลาสมาผิดปกติเป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้
- ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศีรษะภายหลังบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค
- งดสูบบุหรี่ ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี
ขณะบริจาคโลหิต
- สวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้ว
- เลือกแขนข้างที่เส้นโลหิตดำใหญ่ชัดเจน ที่สามารถให้โลหิตไหลลงถุงได้ดี ผิวหนังบริเวณที่จะให้เจาะ ไม่มีผื่นคัน หรือรอยเขียวช้ำ ถ้าแพ้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า
- ทำตัวตามสบาย อย่ากลัว หรือวิตกกังวล
- ไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอมขณะบริจาคโลหิต
- ขณะบริจาคควรบีบลูกยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้โลหิตไหลได้สะดวก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น วิงเวียน มีอาการคล้ายจะเป็นลม อาการชา อาการเจ็บที่ผิดปกติ ต้องรีบแจ้งให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้นทราบทันที
- หลังบริจาคโลหิตเสร็จเรียบร้อย ห้ามลุกทันที ให้นอนพักสักครู่จนกระทั่งรู้สึกสบายดี จึงลุกไปดื่มน้ำ และรับประทานอาหารว่างที่จัดไว้รับรอง
หลังบริจาคโลหิต
- ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ งดใช้กำลังแขนข้างที่เจาะ รวมถึงการหิ้วของหนักๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ภายหลังการบริจาคโลหิต
- ถ้ามีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบนั่งก้มศีรษะต่ำระหว่างเข่า หรือนอนราบยกเท้าสูงจนกระทั่งมีอาการปกติจึงลุกขึ้น และเดินทางกลับ ป้องกันอุบัติเหตุจากการล้ม
- ถ้ามีโลหิตซึมออกมาจากรอยผ้าปิดแผล อย่าตกใจ ให้ใช้นิ้วมืออีกด้านหนึ่งกดลงบนผ้าก๊อส กดให้แน่นและยกแขนสูงไว้ประมาณ 3-5 นาที หากยังไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่บริจาคโลหิตเพื่อพบแพทย์หรือพยาบาล
- ผู้บริจาคโลหิตที่ทำงานปีนป่ายที่สูง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพัก 1 วัน
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กที่ได้รับวันละอย่างน้อย 1 เม็ด จนหมด เพื่อป้องกันการขาดธาตุเหล็ก
ขั้นตอนบริจาคโลหิต
ขั้นตอนที่ 1 กรอกแบบฟอร์มผู้บริจาคโลหิต
*ควรให้ข้อมูลตรงตามความเป็นจริงของผู้บริจาค จะทำให้ได้โลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อตัวผู้บริจาคเอง และตัวผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการรับบริจาคโลหิต
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต และความเข้มโลหิต
*บุคลากรทางการแพทย์ จะสอบถามประวัติผู้บริจาคเพิ่มเติม เพื่อวินิจฉัยเบื้องต้นว่าท่าน มีสุขภาพพร้อมที่จะบริจาคโลหิตหรือไม่ โปรดอย่าปิดบังข้อมูลเรื่องสุขภาพ หรือเขินอายที่ จะตอบคำถาม
ขั้นตอนที่ 3 ลงทะเบียนรับหมายเลขถุงบรรจุโลหิต ที่เคาน์เตอร์ทะเบียน
ขั้นตอนที่ 4 บริจาคโลหิต
ขั้นตอนที่ 5 พักรับประทานอาหารว่าง/เครื่องดื่ม
*หลังบริจาคโลหิตจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่จัดไว้บริการให้ และนั่งพักสักระยะหนึ่ง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพน้ำในร่างกาย เมื่อปกติดีแล้วจึงเดินทางกลับ
ที่มา...สภากาชาดไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)