ads by google

วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

โรคและความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระบบต่อมไร้ท่อ


โรคเอแอลเอส

            โรคเอแอลเอส (Amyotrophic Lateral Sclerosis) หรือโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมถอย เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของร่างกายที่อยู่ภายใต้อำนาจของจิตใจ เซลล์ประสาทที่เกิดการเสื่อมสลายดังกล่าวอยู่ที่ส่วนหน้าของไขสันหลังและเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ โรคนี้พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบในคนผิวขาวมากกว่าคนผิวดำ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ป่วยพูด กลืน และหายใจลำบาก

สาเหตุของโรค

            ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ถ้าคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ก็จะถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้เกิดจากกลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune Attack) หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่าการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังเกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาทที่เรียกว่า กลูตาเมท (Glutamate) กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์

อาการของโรค

            ผู้ป่วยโรคเอแอลเอส มักมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งที่ต้นแขน มือ ขาทั้ง 2 ข้าง โดยจะรู้สึกเมื่อยล้า ยกแขนไม่ขึ้น หยิบจับของไม่ถนัด ใส่รองเท้าแตะแล้วหลุดง่าย ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกปวดโดยไม่พบสาเหตุ ก่อนหน้าจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นเวลานาน ผู้ป่วยอาจมีอาการกลืนลำบาก สำลักง่าย หรือพูดไม่ชัด ผู้ป่วยอาจสังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อที่อ่อนแรง ฝ่อลีบ และกล้ามเนื้อหลายตำแหน่งอาจเต้นพลิ้วเป็นระยะตลอดวัน ผู้ป่วยยังสามารถกลอกตาไปมาและควบคุมกล้ามเนื้อหูรูดได้ จึงกลั้นอุจจาระและปัสสาวะได้ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการชา และมีสติดีตลอดระยะเวลา

การรักษา

            ให้ยาไรลูโซน (Riluzole) 50 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 2 ครั้ง จะช่วยลดการทำลายเซลล์ประสาท ไขสันหลังและสมอง โดยยานี้จะช่วยยืดอายุของผู้ป่วยออกไปประมาณ 3-6 เดือน และไม่ได้ทำให้อาการอ่อนแรงดีขึ้นหรือหยุดยั้งการดำเนินของโรคได้ การรักษาอื่นๆ ได้แก่ การรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาแก้ไขอาการท้องผูก ยาลดน้ำลาย การทำกายภาพบำบัด การฝึกพูด ฝึกกลืน ใส่สายยางเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถกลืนอาหารได้ และการให้ออกซิเจนเมื่อผู้ป่วยเหนื่อย เป็นต้น 


ที่มา ebook on maceducation.com/e-knowledge/2504209100/01.htm