ถ้าเป็นที่เมืองไทย ต้องถ่ายคลิปไปออกสรยัด...
ฯพณฯ พล.อ.สีเผือก
เที่ยงวันที่ 4 กันยายน นายหวางเดินทางจากปักกิ่งมาทำธุรกิจในหวู่ฮั่นกับเพื่อนของเขา และเย็นในวันเดียวกันเขาก็แวะรับประทาน KFC ภายในร้านขณะที่เขากำลังจ่ายเงินค่าอาหาร หวางมองลอดช่องระหว่างตู้อาหารของร้าน ภายในนั้นเขาเห็นพนักงานกำลังทำแซนด์วิชโดยใช้มือเปล่าๆ ไม่ได้สวมถุงมือ
"ผมเห็นเขาไม่สวมหน้ากาก หมวกคลุมศีรษะ และยังเห็นเขาจับไก่ ผัก และไส้แซนด์วิชด้วยมือเปล่าๆของเขา" หวางกล่าว หลังจากที่เขาเห็นพฤติกรรมความมักง่ายของพนักงานเขาก็ไม่รับประทานอาหารที่สั่งเลย ในขณะที่พนักงานเคาน์เตอร์กำลังพูดต่อรองกับเขาก็มีหญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้จัดการร้านกล่าวขอโทษแก่เขา และอ้างว่าในตอนเที่ยงพนักงานหลายคนจะไม่สวมถุงมือ แต่มั่นใจว่าพนักงานทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนทำหรือสัมผัส พร้อมรับประกันถึงความสะอาดและถูกสุขอนามัย
นายหวางโต้กลับและชี้ไปยังพนักงานที่ไม่สวมถุงมือ หน้ากาก และหมวกเหล่านั้น และกล่าวว่า "แม้คุณรับประกันว่าอาหารของพวกคุณสุขอนามัยและมีความปลอดภัยมากพอ แต่ผู้บริโภคจะมั่นใจมากพอเพียงใดในเมื่อพวกคุณทำอาหารด้วยมือเปล่าๆแบบนี้" หลังจากนั้นนายหวางประชดโดยการสั่งซื้ออาหารชุดครอบครัวเพิ่ม 20 ชุด (1 ชุดมีไก่ประมาณ 5 ชิ้น)
หลังจากเขาสั่งอาหาร 20 ชุด พนักงานดูเหมือนไม่สนใจ ทำให้เขายิ่งโกรธ และตัดสินใจสั่งเป็นจำนวน 2,000 ชุด แต่พนักงานคิดว่าเขาล้อเล่น หรือผลีผลามด้วยความโกรธ จนเงินจำนวน 140,000 หยวนถูกวางไว้บนเคาน์เตอร์ (อาหารชุดใหญ่ 1 ชุดราคา 74 หยวน) พนักงานจึงแยกย้ายกันทำงานตามออเดอร์อาหารที่นายหวางสั่งตามที่พวกเขาพอจะทำได้
นายหวางกล่าวว่า เขากิน KFC ในต่างประเทศ และเห็นชัดเลยว่า KFC ต่างประเทศกับ KFC ในจีนต่างกันลิบลับในเรื่องสุขอนามัย ทั้งที่มีหมวก ถุงมือ และหน้ากากอยู่ใกล้ๆ แต่กลับไม่ใส่ใจที่จะใช้มัน เขายินดีใช้เงินจำนวนมากเพื่อปกป้องสิทธิของเขา และใช้วิธีนี้เพื่อเตือนให้ประชาชนในเมืองนี้รับรู้
หลังจากนายหวางได้รับสินค้า 22 รายการ หวางวางอาหารและป้ายประจานตรงหน้าร้าน ทางร้านปฏิเสธการขายให้แก่เขาทันที เพื่อนของหวางกล่าวว่า หากพนักงานใส่ใจและขอโทษเขาแต่แรกเหตุการณ์นี้ก็คงไม่มี
