ถ้าจะถามถึงอดีตว่าเรียนอะไรมา คำตอบที่ออกมาจากใจและคิดว่ามันง่ายที่สุดก็คือ
“เรียนทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า”โดยที่เชื่อว่าแต่ละสิ่งที่ปรากฏเปลี่ยนแปลงอยู่บนโลกใบนี้คือสิ่งสมมติทั้งสิ้น
ปกติแล้วภายในภาพรวมของชีวิตที่สนใจเรียนรู้ ย่อมมี 2 ด้านเสมอ “ด้านนอกคือสิ่งสมมติที่ไม่มีตัวตน
นอกจากสะท้อนให้รู้ถึงวิถีการเปลี่ยนแปลงที่หมุนวนเป็นวัฏจักร”
ส่วนด้านใน คือความจริงที่มีแต่อดีตจากการนำปฏิบัติ
สิ่งนี้แฝงอยู่ในจิตใต้สำนึกของทุกคนที่เกิดมา
ทุกอย่างมีวิถีการเปลี่ยนแปลงที่หมุนวนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อมีขาวก็ย่อมมีดำ เมื่อมีสูงก็ย่อมมีต่ำ
ทุกอย่างมีวิถีการเปลี่ยนแปลงที่หมุนวนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อมีขาวก็ย่อมมีดำ เมื่อมีสูงก็ย่อมมีต่ำ
เมื่อมีเล็กก็ย่อมมีใหญ่ เมื่อมีรักก็ย่อมมีริษยา
ดังนั้นไม่ว่าบุคคลใดจะยืนอยู่ ณ จุดไหนก็ตาม หากทำให้ดีที่สุดแล้ว วันหนึ่งก็ย่อมพบความจริงที่ปรากฏ
ดังนั้นไม่ว่าบุคคลใดจะยืนอยู่ ณ จุดไหนก็ตาม หากทำให้ดีที่สุดแล้ว วันหนึ่งก็ย่อมพบความจริงที่ปรากฏ
อยู่ในอีกด้านหนึ่งได้เอง แม้แต่กำลังเป็นทุกข์อยู่ในขณะนี้ ถ้าทำอย่างดีที่สุดวันหนึ่ง
ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นความสุขได้เองอย่างเป็นธรรมชาติ
ชีวิตฉันอยู่มายาวนานพอสมควร ดังนั้นจึงสามารถพบ
ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีกิเลสมนุษย์เป็นพื้นฐานสำคัญ หากละกิเลสเสียได้
ในที่สุดชีวิตก็ย่อมไม่เกิดมาอีกเพราะภายในจิตใต้สำนึกนั้นมันไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตน
ระพี คริก
20 กุมภาพันธ์ 2556
ระพี คริก
20 กุมภาพันธ์ 2556